วัตถุประสงค์ |
เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของค่ามุมหรือระยะทางที่วัดจากส่วนของฐานกะโหลกศีรษะและใบหน้าส่วนบน
และสามารถพยากรณ์ถึงค่ามุมระนาบของขากรรไกรล่าง (มุม S-N/GO-Gn) ในกลุ่มที่มีโครงสร้างใบหน้าเป็นคลาสวันโอเพนไบท์,
คลาสทูโอเพนไบท์และคลาสทรีโอเพนไบท์ |
วิธีดำเนินงานวิจัย |
กลุ่มตัวอย่างมีโครงสร้างใบหน้าโอเพนไบท์
จำนวน 180 คน เป็นเพศชาย 90 คน และเพศหญิง 90 คน อายุ 15-25 ปี แบ่งตามโครงสร้างใบหน้าเป็น
3 กลุ่มคือ โครงสร้างใบหน้าคลาสวัน, โครงสร้างใบหน้าคลาสทู และโครงสร้างใบหน้าคลาสทรี
กลุ่มละ 60 คน จากผู้ป่วยที่มารับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันที่คณะทันตแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำภาพถ่ายรังสีกะโหลกศีรษะด้านข้างมาลอกรายละเอียดส่วนต่าง
ๆ ของกะโหลกศีรษะและใบหน้าลงบนกระดาษอาซิเตทแล้วทำการวัดค่ามุมและระยะทางต่าง
ๆ ที่ต้องการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเปียร์สันระหว่างค่ามุมที่แสดงลักษณะโครงสร้างโอเพนไบท์คือ
มุมของระนาบ S-N กับระนาบขากรรไกรล่าง (มุม S-N/Go-Gn) ที่มากกว่า 38 องศา
กับค่ามุมและระยะทางที่วัดจากส่วนฐานกะโหลกศีรษะและใบหน้าส่วนบน จำนวน 9 ค่า
แล้วนำความสัมพันธ์ที่ได้มาหาสมการถดถอยพหูคูณเชิงเส้นตรงเพื่อประมาณค่ามุมของระนาบ
S-N กับระนาบขากรรไกรล่างในโครงสร้างโอเพนไบท์ |
สรุปผลการวิจัย |
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ
(p < 0.05) ระหว่างค่ามุมและระยะทางในส่วนฐานกะโหลกศีรษะและใบหน้าส่วนบนกับโครงสร้างโอเพนไบท์
ในกลุ่มเพศชายคลาสวัน ได้แก่ มุม NSANS (r-0.0535) กลุ่มเพศหญิงคลาสวัน ได้แก่
มุม MCF (r=0.589) กลุ่มเพศชายคลาสทู ได้แก่ มุม S=N/PP (r=0.388) และมุม NSANS
(r=0.395) กลุ่มเพศหญิงคลาสทู ได้แก่ค่า RATIO 2 (r=0.52) กลุ่มเพศชายคลาสทรี
ได้แก่ มุม S-N/PP (r=0.444) มุม NSANS (r=0.478) และค่า RATIO (r=0.46) แต่ในเพศหญิงคลาสทรีไม่พบค่ามุมหรือระยะทางที่มีความสัมพันธ์กับโครงสร้างโอเพนไบท์
|
|
|
|
|
|
|